Breast Augmentation ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
ศัลยกรรมเสริมหน้าอก (Breast Augmentation)
เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการผ่าตัดที่มีความนิยมมากทั่วโลก การเสริมหน้าอก ทำนม นั้นมีวิวัฒนาการมาโดยตลอด ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าด้วยวัสดุเสริมหน้าอกรุ่นใหม่ และเทคนิคการผ่าตัดที่ดีขึ้นมาก การควบคุมสภาวะปลอดเชื้อและห้องผ่าตัด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีผลแทรกซ้อนต่ำมาก
ประเภทของการเสริมหน้าอก
เทคนิกทางด้านผ่าตัดศัลยกรรมเต้านม (เสริมหน้าอก) ในปัจจุบันมีการเสริมเต้านมหลากหลายวิธี สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ดังนี้
- การเสริมเต้านมโดยใช้ถุงเต้านมเทียม (Breast implant)
วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน มีข้อดี คือ ได้ผลดี และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
- การเสริมเต้านมโดยใช้ถุงเต้านมเทียมร่วมกับการฉีดไขมันตนเอง (Hybrid breast augmentation)
ข้อดีของวิธีการนี้ คือ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเนินอกแห้ง และมีไขมันส่วนเกินที่ส่วนอื่น ของร่างกาย แต่วิธีการนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างนั่นคือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การยุบตัวของไขมันที่อาจต่างกัน และการถ่ายเอกซเรย์ตรวจเต้านมอาจทำได้ยากมากขึ้น
- การเสริมเต้านมโดยการฉีดไขมันตนเองเพียงอย่างเดียว ร่วมกับการทำสเต็มเซล Fat transfer breast augmentation หรือ Cell Assisted Lipoplasty – CAL
ข้อดีของการเสริมเต้านมโดยการฉีดไขมันตัวเอง ก็คือ เป็นเนื้อเยื่อตนเอง แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาดที่ได้รับและค่าใช้จ่ายสูง
ซิลิโคนมีกี่แบบ
- ทรงกลม กับ ทรงหยดน้ำ
ทั้งสองแบบนั้นจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
โดยทรงกลมก็จะมีความนูนทั้งด้านบนและด้านล่าง ได้เนินหน้าอกด้านบนที่มากกว่า อยากใส่เสื้อสวย ดูมีเนินอกมากๆก็ต้องทรงกลม แต่ความเป็นธรรมชาติจะน้อยกว่าทรงหยดน้ำ
สำหรับทรงหยดนำ้ รูปทรงจะมี curveมากกว่า ด้านล่างจะนูนกว่าด้านบนคล้ายสรีระของเต้านม จึงดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
ผิวเรียบ ข้อดีคือ ราคาถูกกว่า ผ่าตัดใส่ได้ง่ายกว่า แต่ มีโอกาสเกิดพังผืดรัด (capsular contracture) ทำให้หน้าอกแข็งได้มากกว่า
ผิวทรายจะดีกว่าผิวเรียบเพราะผิวทรายสร้างมาเพื่อกระจายแรง ทำให้เกิดพังผืดน้อยกว่า โอกาสเกิดหน้าอกแข็ง (Capsular contracture) จึงน้อยกว่า เป็นธรรมชาติกว่า แต่จะมีราคาที่สูงกว่าแบบผิวเรียบ
ควรเสริมซิลิโคนขนาดเท่าไหร่
การเลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะสม ต้องอาศัยการตรวจวัดโดยละเอียดทั้งปริมาณเนื้อหน้าอกเดิม ความกว้าง ความยาวของโครงสร้างหน้าอก ขนาดของฐานหน้าอก และความหนาของผิวหนังและชั้นไขมัน ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละคน ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้กำหนดขนาดเองว่า ต้องการ 300 350 400cc
ควรจะบอกแพทย์คร่าวๆว่า ต้องการขนาดประมาณ cup C cupD. หรือต้องการให้หน้าอกใหญ่ขึ้นประมาณ 2cup เป็นต้น. แล้วแพทย์จะทำการ วัด ประเมินให้ว่า ควรใส่ขนาดเท่าไร
แผลผ่าตัดมีกี่แบบ
1.แผลที่รักแร้ โดยวิธีปัจจุบันมี 2 วิธีในการผ่าตัด ได้แก่
- การผ่าตัดทางรักแร้แบบเดิม เจ็บกว่าวิธีอื่น และโอกาสเกิดพังผืดสูงกว่าแบบอื่น
- การผ่าตัดส่องกล้องทางรักแร้ (Transaxillary Endoscopic-Assisted) เจ็บน้อย เกิดผังผืดน้อย และฟื้นตัวเร็วขึ้น
แผลรักแร้เหมาะกับใคร
แผลรักแร้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อนแผลไว้ที่รักแร้ และลักษณะเต้านมเหมาะสมกับซิลิโคนที่เลือก โดยไม่ได้ต้องการการแก้ไขโครงสร้างเต้านมมากเกินไปนัก
ข้อดีคือจะไม่เห็นแผลชัด แผลซ่อนตามรอยรักแร้ แผลจะสวยกว่า โดยเฉพาะคนที่มีเนื้อนมน้อย ไม่มีเนื้อนมคล้อยลงมีปิดแผลใต้ราวนมได้ ทำทางรักแร้จะดีกว่า หรือคนที่เป็นแผลเป็นนูน (Keloid)ง่าย การซ่อนแผลทางรักแร้จะดีกว่า ซึ่งเป็นวิธีที่ดารา นักแสดง และคนส่วนมากนิยมทำกัน แต่วิธีนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการทำมากกว่า
2.แผลรอบปานนม (ความเสี่ยงเกิดพังผืดสูงสุด)
การทำนมแนวแผลจุดนี้ไม่ได้รับความนิยม เพราะความเสี่ยงเกิดพังผืดสูงสุด ( ผลจากงานวิจัย ) จากการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากท่อน้ำนม
3.แผลราวนม ได้รับความนิยมมาก เพราะ เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว พังผืดน้อย และแก้ไขโครงสร้างเต้านมได้ดี
แผลราวนมเหมาะกับใคร
แผลตำแหน่งราวนมเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว หรือ ต้องแก้ไขรูปทรงหน้าอกมาก และสามารถดูแลแผลหลังผ่าตัดได้ดี
ข้อดีคือจะทำได้ง่าย และเจ็บน้อยกว่า แต่ระยะยาว มีโอกาสเห็นแผลเป็นได้ชัดกว่า
เสริมซิลิโคนหน้าอก ทำโดยแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ และคลินิกสะอาดได้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล ปลอดภัย ทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานคุณภาพ ที่ NYC Clinic
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ