088-008-7870

Cell Therapy เซลล์บำบัด

 

 

สเต็มเซลล์ (stem cell) คืออะไร

 

สเต็มเซลล์ stemcell คือ เซลล์อ่อนที่ยังไม่มีหน้าที่จำเพาะใดๆและสามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและเจริญเติบโตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เปลี่ยนแปลงเพื่อไปเป็นเซลล์อื่นๆ ได้อีกมากกว่า 200 ชนิด ที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ ต้องได้รับการกระตุ้นและสั่งการจากร่างกาย เพื่อเป็นเป็น

เซลล์ที่จำเพาะต่าง ๆ ดังนั้น stem cell จึงสามารถเปลี่ยนเแปลงไปเป็นเซลล์ได้ในร่างกาย เช่น เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์กระดูก หรือเซลล์ประสาท
มีลักษณะพิเศษที่สำคัญ 3 ประการ ดังนี้

1.สามารถแบ่งตัวทดแทนลักษณะเดิมของตัวเอง (Self Renewal)

2.สามารถเพิ่มจำนวน (Proliferation) ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

3.สามารถเจริญพัฒนา (Differentiation) ไปเป็นเซลล์ไขมัน เซลล์กระดูก และเซลล์กระดูกอ่อน หรือเซลล์จำเพาะต่างๆ ในหลายอวัยวะของร่างกายได้

 

 

สเต็มเซลล์แบ่งเป็น 3 ชนิดดังนี้

 

  1. สเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอ หรือตัวอ่อนของมนุษย์ (ESCs) สเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอหรือตัวอ่อนของมนุษย์ ถูกใช้เฉพาะในงานวิจัยเท่านั้นสามารถเจริญพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อทั้ง 3 ชนิดคือ เนื้อเยื่อชั้นนอก เนื้อเยื่อชั้นกลาง และเนื้อเยื่อชั้นในและการใช้สเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอ หรือตัวอ่อนของมนุษย์  อาจทำให้เกิดเนื้องอก หรือก้อนมะเร็งได้

 

2. สเต็มเซลล์ที่ได้จากการปรับแต่งยีน (iPSCs)จะถูกสร้างจากนักวิทยาศาตร์ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น สเต็มเซลล์ที่ได้จากการปรับแต่งยีนเป็นสเต็มเซลล์ที่สร้างขึ้นจากสเต็มเซลล์จากเซลล์ที่เจริญแล้วให้กลับไปมีคุณสมบัติคล้ายสเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอ หรือตัวอ่อนของมนุษย์ คุณสมบัติของสเต็มเซลล์ที่ได้จากการปรับแต่งยีน หรือ iPSCs จะเหมือนกับสเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอ หรือตัวอ่อนของมนุษย์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ เช่นนำมาทำสอบยาและใช้เป็นตัวอย่างของโรคเพื่อหาวิธีการรักษา อาจทำให้เกิดเนื้องอก หรือก้อนมะเร็งได้

3. สเต็มเซลล์จากเซลล์ที่เจริญแล้ว หรือ สเต็มเซลล์ชนิดมีเซ็นไคม์ (MSCs) ถูกสร้างจากร่างกายของมนุษย์ทุกคน เพื่อไปทดแทนหรือแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพ มีคุณสมบัติเป็น Multipotent คือมีความสามารถเจริญพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อชั้นกลาง ทดแทนเซลล์ที่สึกเหรอ และช่วยปรับสมดุลย์ต่างๆ ให้กับร่างกาย

-สเต็มเซลล์จากเลือด หรือ ชนิดเม็ดเลือดสามารถที่จะเจริญพัฒนาไปเป็นเซลล์เม็ดเลือดได้ทุกชนิด คือ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด 

-สเต็มเซลล์จากผิวหนัง จะสามารถเจริญพัฒนาไปเป็นเซลล์ผิวหนังและเส้นผมได้     

 -สเต็มเซลล์จากเซลล์ไขมัน และสามารถเจริญพัฒนาไปเป็นกระดูก กระดูกอ่อน และกล้ามเนื้อได้  เป็นสเต็มเซลล์ที่เรานำมาใช้กันในทางการแพทย์เพื่อให้เซลล์เจริญพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อชั้นกลาง (กระดูก กระดูกอ่อน และกล้ามเนื้อ) ทดแทนเซลล์ที่สึกหรอ และช่วยปรับสมดุลต่างๆ ให้กับร่างกาย

 

Stemcell Msc เป็นเสต็มเซลล์ที่ได้มาจาก

สายสะดือ (Umbilical cord)

เลือดจากรก (Cord blood)

ไขมัน (Adipose)

เลือด (Peripheral blood)

ไขกระดูก (Bone marrow)

ฟัน (Teeth)

ประโยชน์ของ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) ในทางการแพทย์

 

-สามารถทดแทนเซลล์เก่าที่เสียหายได้ สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ของอวัยวะในร่างกายเราเองได้ เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์ตับอ่อน เซลล์กระดูก เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท เซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เซลล์อื่น ๆ เป็นต้น

-ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย โดยการหลั่งสาร Interleukin, Cytokine สามารถยับยั้งการอักเสบได้ทั่วร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมจากโรคที่รุนแรงจากการอักเสบได้ เช่น โรคกลุ่มภูมิคุ้นกันผิดปกติ Autoimmune

-Rejuvenation Medicineสามารถใช้ในการชะลอวัย (Anti-Aging) เพื่อเข้าไปซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมทั่วร่างกาย หรือ สำหรับใช้ฉีดเฉพาะที่ เช่น ใบหน้าเพื่อให้ลดริ้วรอย จุดด่างดำ ลบรอยแผลเป็น ลดกระฝ้า ลดเม็ดสี สร้างคอลลาเจน สร้างเซลล์ใหม่ๆขึ้นมา ข้อเข่า ลดการอักเสบ ลดปวดจากความเสื่อม หรือฉีดหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการสร้างรากผม

 

ประโยชน์ของ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) ในทางการแพทย์ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน

 

  1. โรคชรา หรือโรคความเสื่อมที่เกิดจากวัย (Anti-aging)
  2. โรคไขข้ออักเสบ โรครูมาตอยด์ โรคข้อเสื่อมต่างๆ (Osteoarthritis)
  3. โรคเบาหวาน (Diabetes)
  4. หัวใจและหลอดเลือด ช่วยในเรื่องการสร้างเส้นเลือดใหม่ สร้างเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiovascular disease)
  5. โรคทางระบบประสาท เช่น พาร์คินสัน อัลไซเมอร์ ไขสันหลังบาดเจ็บ ไขสันหลังอักเสบ โรคหลอดเลือดสมองแตกตีบ อัมพฤกษ์ จอประสาทตาเสื่อม ป้องกันการสูญเสียของเซลล์ประสาท (Stroke ,Parkinson and Alzheimer)
  6. โรคไตวาย ช่วยให้ค่าไต และ Creatinine ลดลง (Kidney disease)
  7. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Autoimmune disease)
  8. โรคอื่นๆ ที่มีงานวิจัยว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ เช่น Multiple Sclerosis Critical Limb Ischemia , Chronic Obstructive Pulmonary Disease ,Aplastic Anemia เป็นต้น
  9. ผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยเซลล์บำบัด สามารถช่วยลดการอักเสบของปอด หลังการติดเชื้อโควิด-19ได้ (post-covid19)

ข้อดีของ Stemcell Msc คือสามารถฉีดข้ามคนได้ (allogeneic) โดยไม่เกิดการปฏิเสธเนื้อเยื่อในครั้งแรก เนื่องจากเป็นเซลล์ที่ยังไม่มีการแสดงออกจึงไม่กระตุ้นระบบภูมิต้านทานที่จะทำให้เกิดการต่อต้าน MSCs ยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติหรือจะกลายพันธุ์ได้อีกด้วย เราจึงสามารถนำสเต็มเซลล์ Stemcell Msc จากคนอื่นมาใช้โดยไม่เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิต้านทานในร่างกาย

Lab ของทาง Nyc Clinic เราดำเนินการเพาะเลี้ยงเซลล์ Msc ภายใต้ห้องปลอดเชื้อ มาตรฐาน Cleanroom Class 100 และ 10,000 ตามมาตรฐาน FDA ประเทศไทย รวมถึงระบบการบริหารห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานในการเพาะเลี้ยงเซลล์ในระดับ Clinical grade  นอกจากนี้ Msc ที่เพาะเลี้ยงเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบคุณลักษณะ MSCs ตามมาตรฐานของสมาคมเซลล์บำบัดนานาชาติ International Society for Cellular Therapy (ISCT) และ Code of Federal Regulations (CFR)

ขั้นตอนวิธีการฉีดสเต็มเซลล์ทางหลอดเลือดดำ

  1. เมื่อผู้เข้ารับบริการเข้ามาพบแพทย์ แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย และทำการวางแผนการรักษา
  2. ผู้เข้ารับบริการต้องนัดวันเวลาที่จะทำการเข้ามาฉีดสเต็มเซลล์ ล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน และยกเว้นการให้บริการในวันอาทิตย์
  3. นัดวันเข้ารับบริการตรวจสุขภาพก่อนรับสเต็มเซลล์ ตามแพคเกจตรวจสุขภาพ โดยงดน้ำงดอาหารทุกชนิดเป็น 12 ชม.ก่อนตรวจ ใช้ระยะเวลาการตรวจสุขภาพ ประมาณ 1.30 ชม.
  4. ทดสอบการแพ้ทางผิวหนัง เป็นเวลา 15-20 นาที
  5. นอนพักในห้องรับรอง ให้สเต็มเซลล์ทางหลอดเลือดที่แขน ระยะเวลา 30-45 นาที
  6. สังเกตุอาการ หลังได้รับสเต็มเซลล์ 30 นาที รับประทานอาหาร
  7. รับบัตรนัดตรวจสุขภาพ และคำแนะนำการดูแลสุขภาพหลังให้ สเต็มเซลล์
  8. สามารถกลับบ้านได้ไม่ต้องพักฟื้น

ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังฉีดสเต็มเซลล์

  • ถ้ามีประวัติแพทย์อาหารหรือแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนรับเซลล์
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 8-12 ชม.
  • ลดอาหารมันและอาหารทอด ก่อนและหลังให้เซลล์ประมาณ 3 วัน
  • งดเดินทางไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อโรค ไม่น้อยกว่า 3 วัน
  • หลังจากการให้เซลล์อาจจะพบว่ามีอาการง่วงนอนมากกว่าปกติ ให้รับประทานน้ำหวานและน้ำให้มากขึ้น
  • งดกีฬากลางแจ้งอย่างน้อย 1-2 วัน
  • หลีกเลี่ยงหัตถการ เช่นการผ่าตัด ดูดไขมัน ก่อนและหลังให้เซลล์ไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการทำคีเลชั่น ในช่วง 1 อาทิตย์หลังรับเซลล์

TEL: 088-008-7870